อะไรจะเกิดขึ้น หากเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด
อาการบาดเจ็บกับการเล่นกีฬาเป็นของคู่กันคือ เอ็นไขว้หน้าขาดเป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยในคนชอบเล่นกีฬา เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดอาจส่งผลทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บเกิดความเจ็บปวดบริเวณข้อเข่าและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
เสียงลั่นในข้อเข่าขณะเล่นกีฬาหรือประสบอุบัติอาจส่งผลต่อเข่าของคุณโดยทันที ทั้งความรู้สึกปวดร้าว และขาอ่อนแรง
โดยจะรู้สึกมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเดิน การวิ่ง หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหัน
โดยจะรู้สึกมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเดิน การวิ่ง หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหัน
เอ็นไขว้หน้าขาดเป็นอาการบาดเจ็บที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดเพราะอาจส่งผลกระทบโดยรวมต่อการใช้ชีวิตประจำวันและอาการปวดที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะข้างเคียงด้วยเช่นกัน รวมทั้งอาการปวดเข่าเรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจนำไปสู่การเกิดข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยได้ในที่สุด
เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าสำคัญอย่างไร ?
- การรักษาความมั่นคงของข้อเข่า เอ็นไขว้หน้าเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อเข่า ช่วยให้ข้อเข่าคงที่และป้องกันการเลื่อนของกระดูกที่อยู่ในข้อเข่า เมื่อมีการบิดหมุนหรือแรงกดที่ข้อเข่า ความแข็งแรงของเอ็นไขว้หน้าจะช่วยล็อกข้อเข่าให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และป้องกันการเคลื่อนไหวที่ไม่ควรเกิดขึ้นของข้อเข่า
- บรรเทาอาการบาดเจ็บของข้อเข่า เอ็นไขว้หน้ามีบทบาทสำคัญในการป้องกันการบาดเจ็บของข้อเข่า อาการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าสามารถทำให้คนที่ประสบอุบัติเหตุรู้สึกเจ็บและมีปัญหาในการเคลื่อนไหวของข้อเข่าเกิดขึ้นได้ การเกิดเอ็นไขว้หน้าขาดในกรณีบาดเจ็บรุนแรงอาจจำเป็นต้องได้รับการปฐมพยาบาลและการดูแลที่ถูกวิธีก่อนถึงมือแพทย์
- การควบคุมการบิดหมุนของข้อเข่า เอ็นไขว้หน้าช่วยในการควบคุมการบิดหมุนของข้อเข่าซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญในกิจกรรมทางกีฬาและการเคลื่อนไหวประจำวัน การมีเอ็นไขว้หน้าที่แข็งแรงจะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บของเข่าที่เกิดจากการบิดหมุนที่ผิดปกติได้
ข้อเข่าถือเป็นกระดูกที่มีการใช้งานบ่อยและได้รับน้ำหนักมาก ดังนั้นการรักษาความแข็งแรงและสุขภาพของข้อเข่าและเอ็นในข้อเข่าถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเอ็นที่อยู่ในข้อเข่าทำงานอย่างถูกต้องและมีความแข็งแรงที่เพียงพอ จะช่วยในการป้องกันอาการบาดเจ็บและควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5 สาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาด
เกิดขึ้นได้จากการบิดตัวอย่างรวดเร็วหรือเมื่อมีแรงหมุนหรือแรงกระแทกที่ข้อเข่า เอ็นไขว้หน้าขาดจึงถือเป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่มักพบบ่อยในคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาประเภทฟุตบอล บาสเกตบอล รักบี้ วอลเลย์บอล และแบดมินตัน ซึ่งนักกีฬาวัยรุ่นมีอัตราการบาดเจ็บของเอ็นข้อเข่าสูงสุด
- การเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วขณะที่เข่ายังไม่พร้อมหรือไม่มีการสนับสนุนในทิศทางใหม่ อาจทำให้เกิดแรงบิดหมุนในข้อเข่าและทำให้เอ็นข้อเข่าเสียหายส่งผลให้เอ็นไขว้หน้าขาดได้ พบได้มากในการเล่นกีฬา
- การหยุดกะทันหัน เอ็นไขว้หน้าอาจเกิดขึ้นได้จากการหยุดในทันทีหรือเร่งการหยุดอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการเตรียมตัวของข้อเข่าที่เพียงพอ อาจทำให้เกิดแรงกระแทกที่ข้อเข่าที่รุนแรงทำให้ข้อเข่าเกิดอาการบาดเจ็บหรือส่งผลให้เอ็นข้อเข่าเกิดความเสียหายได้
- การชะลอความเร็วขณะวิ่ง การชะลอความเร็วขณะวิ่งหรือการเดินที่อาศัยความเร็วโดยไม่มีการเตรียมตัวที่มากพอสำหรับการหยุดโดยทันทีอาจเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บของเอ็นข้อเข่า หากมีแรงกระแทกหรือแรงบิดหมุนที่ข้อเข่าในขณะที่เท้ายังอยู่บนพื้นหรือไม่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม อาจเป็นสาเหตุของเอ็นไขว้หน้าขาดได้
- การลงจากการกระโดดที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระโดด การลงสู่พื้นที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลให้น้ำหนักและแรงกระแทกที่ข้อเข่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แรงกระแทกนี้อาจทำให้เกิดแรงบิดหมุนหรือแรงบีบดันในข้อเข่า ซึ่งอาจทำให้เอ็นข้อเข่าบาดเจ็บหรือเอ็นไขว้หน้าขาด
- การสัมผัสหรือการชนกันโดยตรง การสัมผัสหรือการชนกันโดยตรงจากการเล่นกีฬาในสถานการณ์ที่มีแรงกระแทกที่ข้อเข่า ยกตัวอย่างเช่น การชนหรือการสัมผัสระหว่างนักกีฬาฟุตบอลที่ถูกกระแทกต่อเนื่องหรือถูกเตะในบริเวณข้อเข่าที่รุนแรง รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับวัตถุอื่น ๆ หรือการชนกันของผู้คนอาจทำให้เกิดแรงกระแทกก็ถือเป็นสาเหตุให้เอ็นไขว้หน้าขาดได้เช่นกัน
เอ็นไขว้หน้าขาดมีอาการอย่างไร ?
- อาการแบบเฉียบพลัน
- มีเสียงลั่นในเข่า (Audible Pop) อาการเสียงลั่นในเข่าอาจเกิดขึ้นได้ขณะที่เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดรู้สึกเหมือนมีอะไรดีดอยู่ข้างในเข่าได้ หลังได้ยินอาจเกิดอาการเจ็บปวดสร้างความไม่มั่นคงในข้อเข่าทำให้ไม่สามารถวิ่งหรือเดินต่อได้
- ปวดเข่ารุนแรง เอ็นไขว้หน้าขาดส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับอาการปวดเข่าทันทีและมีความรุนแรง อาการปวดทำให้ผู้ประสบอุบัติเหตุไม่สามารถรับน้ำหนักได้ โดยระดับความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอุบัติเหตุ
- มีอาการบวม เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดอาจทำให้เกิดเลือดรวมอยู่ในเข่าส่งผลให้เข่ามีอาการบวมขึ้นอย่างมาก รวมทั้งทำให้ไม่สามารถงอเข่าได้อย่างปกติ
- การเดินกะเผลก เนื่องจากอาการปวดและบวมในข้อเข่า เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดอาจมีการเดินแบบกะเผลกและไม่สามารถงอเข่าได้อย่างปกติ อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยเดินเพื่อเสริมความมั่นคงระหว่างเดิน
- ไม่สามารถเล่นกีฬาที่มีการวิ่งได้ เนื่องจากเมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดอาจส่งผลทำให้ข้อเข่าไม่มีความมั่นคงและไม่สามารถรับแรงบิดหมุนแรงได้อย่างเหมาะสมจึงไม่สามารถเล่นกีฬาที่มีการวิ่งหรือเดินอย่างรวดเร็วต่อเนื่องได้ ควรหยุดเล่นทันทีและควรได้รับการปฐมพยาบาลที่เหมาะสม
- อาการที่ส่งผลในระยะยาว
- มีอาการเข่าหลวมหรือเข่าทรุด เอ็นไขว้หน้าขาดไม่สามารถฟื้นฟูหรือสมานกันได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นหลังจากการบาดเจ็บในกรณีที่เอ็นไขว้หน้าขาดต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมหรือสร้างเอ็นแทนเพื่อควบคุมและฟื้นฟูข้อเข่า
- มีอาการปวดข้อเข่าในระยะยาว เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดและไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดข้อเข่าเสื่อมในระยะยาว เนื่องจากข้อเข่าจะไม่มีความมั่นคงและควบคุมดีเท่าที่ควรอาจทำให้เกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมและอาการปวดข้อเข่าเรื้อรังเกิดขึ้นได้
- กล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง การบาดเจ็บที่ส่งผลให้เอ็นไขว้หน้าขาดอาจทำให้กล้ามเนื้อต้นขาลีบและอ่อนแรง เนื่องจากขาและข้อเข่าไม่สามารถใช้งานอย่างปกติ การฟื้นฟูกล้ามเนื้อและยืดหยุ่นบริเวณข้อเข่าโดยการทำกายภาพบำบัดถือเป็นสิ่งสำคัญของการรักษา
- ระดับการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้า
- ระดับ 1 เอ็นมีความเสียหายเล็กน้อย และข้อเข่ายังคงทรงตัว
- ระดับ 2 มีการฉีกขาดบางส่วนโดยเอ็นมีอาการยืดและเสียหาย
- ระดับ 3 เอ็นไขว้หน้าขาดทั้งหมด ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บของเอ็นข้อเข่าที่พบบ่อยที่สุด โดยทั่วไปแล้วเอ็นไขว้หน้าขาดจะได้รับการพิจารณาการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
แนวทางการวินิจฉัยอาการเอ็นไขว้หน้าขาด
หลังจากเกิดอุบัติเหตุเอ็นไขว้หน้าขาดควรรีบเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจและวางแผนการรักษา ในระหว่างการเข้ารับการตรวจครั้งแรก แพทย์จะพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับอาการและลงประวัติทางการแพทย์ พร้อมตรวจสอบข้อเข่าที่ได้รับบาดเจ็บ โดยอาการบาดเจ็บที่เอ็นส่วนใหญ่สามารถวินิจฉัยได้ด้วยการตรวจข้อเข่าอย่างละเอียด สามารถทำได้จากการสแกนด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ MRI
สแกนด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI)
MRI จะสามารถตรวจดูความละเอียดของความเสียหายของเอ็นไขว้หน้าได้ดีกว่าการเอกซเรย์ เพราะสามารถตรวจสแกนเนื้อเยื่ออ่อนอื่น ๆ ในข้อเข่าได้ เช่น วงเดือน กระดูกอ่อน และการบาดเจ็บข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การได้รับการตรวจ MRI จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบเอ็นไขว้หน้าขาดเพื่อประเมินประกอบแผนการรักษาได้อย่างละเอียดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นก่อนทำ MRI แพทย์มักจะเลือกทำการเอกซเรย์ก่อนเสมอ เพื่อตรวจสอบว่ามีอาการบาดเจ็บเกี่ยวข้องกับกระดูกหักหรือไม่ แต่การเอกซเรย์จะสร้างภาพกระดูกให้เห็นเพียงเท่านั้นไม่สามารถตรวจพบเนื้อเยื่ออ่อน อย่างเอ็นไขว้หน้าขาดได้
วิธีการรักษาเอ็นไขว้หน้าขาดด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
เนื่องจากเอ็นไขว้หน้าขาดไม่สามารถสมานหรือฟื้นฟูได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมความเสียหายของเอ็นไขว้หน้า โดยวิธีการในปัจจุบันเป็นการผ่าตัดรักษาแบบส่องกล้อง โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดส่องกล้องข้อเข่าเพื่อซ่อมแซมการฉีกขาดภายในข้อเข่าการผ่าตัดผ่านกล้องจะใช้ส่องเข้าไปเพื่อเย็บซ่อมแซมเส้นเอ็น โดยเจาะรูเพียงแค่ 1 เซนติเมตร ประมาณ 2-3 รูเท่านั้น การผ่าตัดผ่านกล้องจะไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด หลังจากผ่าตัดผู้ป่วยจะใช้ไม้เท้าช่วยพยุงร่างกายประมาณ 1 เดือน
ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้อง
- แผลมีขนาดเล็กเพียง 1 เซนติเมตร 2-3 รู
- ไม่รบกวนอวัยวะข้างเคียง
- เจ็บน้อยเนื่องจากแผลเล็ก
- ฟื้นตัวได้วัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
เอ็นไขว้หน้าขาดไม่ผ่าตัดได้ไหม?
เอ็นไขว้หน้าขาดไม่สามารถหายเองได้ หากไม่ผ่าตัดก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเข่าเรื้อรังส่งผลต่อการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายให้กับมาเคลื่อนไหวได้อย่างปกติอีกครั้ง ควรเข้ารับการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อซ่อมแซมเอ็นไขว้หน้า เพื่อแก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อข้อเข่าในระยะยาว
หลังผ่าตัดแล้วจะกลับมาเล่นกีฬาได้หรือไม่?
หลังจากการผ่าตัดในช่วงแรกผู้ป่วยไม่ควรขยับหรือใช้เข่ามากจนเกินไป การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดส่องกล้องทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ผนวกกับการกายภาพบำบัดเพื่อฝึกกล้ามเนื้อจะยิ่งช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูข้อเข่าได้เร็วขึ้นเช่นกัน ทำให้หลังจากผ่าตัดผู้ป่วยกลับมาเล่นกีฬาได้ โดยจะสามารถเดินและวิ่งออกกำลังกายหลังผ่าตัดไปแล้ว 6 เดือน และสามารถกับมาเล่นกีฬาได้อีกครั้งหลังจากผ่าตัดไปแล้ว 9 เดือน แต่ละเคสระยะเวลาการฟื้นตัวไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการดูแลข้อเข่าและการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
ทำไมต้องรักษาเอ็นไขว้หน้าขาดที่โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ?
โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ตรวจวินิจฉัยการรักษาเอ็นไขว้หน้าขาดโดยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง ปรึกษาและรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา การออกกำลังกาย ไปจนกระทั่งอุบัติเหตุจากเหตุการณ์อื่น ๆ ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดส่องกล้อง อาทิเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนเอ็นหัวไหล่ เอ็นข้อเข่า เอ็นข้อมือ
เอ็นเสื่อม หรือ การผ่าตัดซ่อมแซมเอ็นไขว้หน้าขาด พร้อมด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อรองรับการรรักษาให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยในการรักษา สามารถฟื้นตัวได้เร็วและไม่กระทบต่ออวัยวะข้างเคียง ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่โดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์
เอ็นไขว้หน้าขาดเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอทั้งจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุจากการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นเราควรอบอุ่นและยืดเหยียดร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเล่นกีฬาทุกครั้ง รวมทั้งหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ฝนตก พื้นสนามลื่น รวมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า หรือ ชุดที่สวมใส่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นหรือการขยับตัวที่ไม่ถนัดส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างเล่นได้
เอ็นเสื่อม หรือ การผ่าตัดซ่อมแซมเอ็นไขว้หน้าขาด พร้อมด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อรองรับการรรักษาให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยในการรักษา สามารถฟื้นตัวได้เร็วและไม่กระทบต่ออวัยวะข้างเคียง ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่โดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์
เอ็นไขว้หน้าขาดเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอทั้งจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุจากการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นเราควรอบอุ่นและยืดเหยียดร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเล่นกีฬาทุกครั้ง รวมทั้งหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ฝนตก พื้นสนามลื่น รวมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า หรือ ชุดที่สวมใส่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นหรือการขยับตัวที่ไม่ถนัดส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างเล่นได้
สอบถามข้อมูลหรือแพ็กเกจได้ที่ศัลยกรรมกระดูกและข้อ
โทร. 0-2109-2222 ต่อ 10122 , 10145