อย่าละเลยร่างกายเตือน นิ่วในถุงน้ำดี
โรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคในระบบทางเดินอาหารที่สามารถเกิดขึ้นได้และมีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตหากไม่รีบรักษา ส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยพบได้ตั้งแต่อายุ 30 – 50 ปีผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารจึงหายามารับประทานเอง จนกระทั่งอาการรุนแรงจึงมารับการ
หน้าที่ของถุงน้ำดี
ถุงน้ำดี (Gallbladder) คือ อวัยวะบริเวณช่องท้องที่ทำหน้าที่ในการกักเก็บน้ำดี ทำให้น้ำดีเข้มข้นเพื่อพร้อมสำหรับย่อยไขมัน
รู้จักโรคนิ่วในถุงน้ำดี
นิ่วในถุงน้ำดี(Gall Stone) เป็นโรคในระบบทางเดินน้ำดีที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการตกตะกอนของหินปูนหรือคอเลสเตอรอลในน้ำดี จึงทำให้เกิดนิ่ว โดยลักษณะนิ่วมี 3 ประเภทได้แก่
- นิ่วจากคอเลสเตอรอล (Cholesterol Stone)
เป็นสีเหลือง ขาว เขียวเกิดจากการตกตะกอนไขมัน เนื่องจากคอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้นในถุงน้ำดี
- นิ่วจากเม็ดสี (Pigment Stone)
อาจเป็นสีคล้ำดำ เกิดจากความผิดปกติของเลือด โลหิตจาง ตับแข็ง
- นิ่วโคลน (Mixed Gallstones)
คล้ายโคลนเหนียว หนืด เกิดจากการติดเชื้อใกล้ตับ ท่อน้ำดี ตับอ่อน
อาการบอกโรค
นิ่วในถุงน้ำดีอาจไม่แสดงอาการใดๆ หรือมีบางอาการ ดังนี้
- ท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยหลังทานอาหารไขมันสูง เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
- ปวดใต้ลิ้นปี่ / ชายโครงด้านขวา
- ปวดร้าวที่ไหล่ / หลังขวา
- มีไข้หนาวสั่น มีอาการคลื่นไส้อาเจียน (ถุงน้ำดีติดเชื้อ)
- ดีซ่าน / ตัว-ตาเหลือง (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
- ปัสสาวะสีเข้ม (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
- อุจจาระสีขาว (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
ทั้งนี้ก้อนนิ่วที่ตกตะกอนมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทราย หรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ จำนวนมีได้ตั้งแต่หนึ่งก้อนไปจนถึงหลายร้อยก้อนได้ หากมีขนาดใหญ่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งถุงน้ำดีได้
กลุ่มเสี่ยงเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
- เพศหญิงมีอายุ 40 ปีขึ้นไป
- เพศชายมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
- ภาวะอ้วน มีน้ำหนักมาก
- คอเลสเตอรอลสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคเลือด โลหิตจาง ธาลัสซีเมีย
- ตั้งครรภ์หลายครั้ง
- กินยาคุมกำเนิด
- ทานฮอร์โมนจากภาวะหมดประจำเดือน
- ทานยาลดไขมันบางชนิด
- พันธุกรรมมีประวัติคนในครอบครัว
วิธีการรักษา
การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการจากนิ่วในถุงน้ำดี หากสามารถทำการผ่าตัดได้ แนะนำให้ผ่าตัดเพื่อเอาถุงน้ำดีออกทุกราย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและหลังจากผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปแล้ว ผู้ป่วยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการย่อยอาหาร เพราะถุงน้ำดีเป็นเพียงที่เก็บพักน้ำดี แต่ควรลดของมัน เน้นทานผักและปลามากขึ้น