Bangpakok Hospital

ป้องกันเชื้อไวรัส RSV ด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป

7 เม.ย. 2568


   เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน โดยเฉพาะในทารก และเด็กเล็ก ซึ่งการติดเชื้อครั้งแรกอาจส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ เป็นต้น ร้อยละ1-3 ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ตลอดจนอาจเสียชีวิตได้ ในประเทศไทยฤดูกาลระบาดของ RSV คือช่วงมิถุนายน – ตุลาคม ปัจจุบัน RSV ยังไม่มียารักษาจำเพาะ ดังนั้นการป้องกันโรคจึงมีความสำคัญ ในปัจจุบันมีทางเลือกสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในทารกและเด็กเล็ก ได้โดยการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (monoclonal antibodies) ในเด็กแรกเกิด - 24 เดือน ลดโอกาสในการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค
ทำไม RSV จึงรุนแรงในทารกแรกเกิด - 2 ปี
   เพราะขนาดของทางเดินหายใจในเด็กแรกเกิด - 2 ปี มีขนาดเล็กมาก เมื่อติดเชื้อไวรัส RSV ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลมฝอยและถุงลมในปอด จะทำให้มีเสมหะมาก ทางเดินหายใจจะยิ่งบวม และแคบลง รวมทั้งความสามารถในการไอ ขับเสมหะด้วยตัวเองยังไม่สามารถทำได้ดี อาการในเด็กเล็กจึงมักรุนแรง และเกิดภาวะหายใจล้มเหลวได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดโรคหอบหืดได้ในอนาคต
ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV เป็นอย่างไร
   ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป คือ antibodies สำเร็จรูปที่สร้างมาเรียบร้อยแล้ว ฉีดเข้าสู่ร่างกาย พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรค RSV ได้เลย ช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากวัคซีนเมื่อฉีดเข้าไป ต้องให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน (antibody) ขึ้นมาเองแล้วถึงทำการต่อสู้กับเชื้อโรค ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาถึงจะเริ่มป้องกันได้ ปัจจุบันมีชนิด long-acting monoclonal antibodies คือ Nirsevimab ซึ่งขึ้นทะเบียนในไทยแล้ว
ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV (Nirsevimab) ในเด็กมีประสิทธิภาพอย่างไร
   ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปชนิดนี้สมมารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ได้ยาวนานถึง 5 เดือน
  • ลดความเสี่ยงนอนโรงพยาบาล 2%
  • ลดโอกาสติดเชื้อ RSV 79.5%
  • ลดความรุนแรงที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจในไอซียู 75.3%
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
โทร. 0-2109-1111 , 0-2109-2222
Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.