Bangpakok Hospital

ตัวช่วยผิวดีชะลอวัย ด้วยการดื่มน้ำ

11 ธ.ค. 2566

     ในร่างกายของคนเรามีน้ำทั้งหมดประมาณ 60% และในชั้นผิวหนังทั้งหมดยังประกอบด้วยน้ำมากถึง 64% ดังนั้นนอกเหนือจากการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวอย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้วปัจจัยสำคัญที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปในการดูแลสุขภาพผิวจากภายในคือการดูแลตนเองด้วยการกินอาหารที่ดีต่อผิวของเราโดยเฉพาะการดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอก็เป็นแนวทางในการป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำรวมถึงป้องกันปัญหาผิวแห้งผิวขาดน้ำและปัญหาสุขภาพผิวจากมลภาวะต่างๆที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันได้
  น้ำมีบทบาทในการช่วยเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและการทำกิจกรรมต่างๆรวมถึงยังมีหน้าที่และประโยชน์อย่างหลากหลายทั้งช่วยเพิ่มความสดชื่นทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้นช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้นขึ้นผิวพรรณสดใสไม่แห้งกร้านซึ่งเราจะเห็นได้ว่านอกจากสุขภาพภายในร่างกายแล้ว “น้ำ”ยังมีความสำคัญมากในการสร้าง “ผิวสวยสุขภาพดี”อีกด้วย
สัญญาณบอกอาการผิวขาดน้ำ
   หลายท่านอาจจะเคยเจอปัญหาผิวแห้งผิวขาดน้ำกันมาบ้างไม่น้อยบางคนอาจจะคิดว่าผิวแห้งกับผิวขาดน้ำนั้นเหมือนกันแต่ที่จริงแล้วผิวแห้งกับผิวขาดน้ำนั้นมีความแตกต่างกันดังนี้
  • ผิวแห้ง เป็นลักษณะหนึ่งของผิวซึ่งมีหลายประเภท (ผิวปกติผิวแห้งผิวมันฯลฯ) โดยผิวแห้งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นหรือความชื้นต่ำทำงานในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานหรือการแช่หรืออาบน้ำร้อนเป็นเวลานานโดยคนที่มีผิวแห้งมักจะรู้สึกตึงผิวภายนอกผิวหยาบกร้านผิวลอกเป็นขุยไม่น่าสัมผัสหรือมีผิวแตกเป็นต้น
  • ผิวขาดน้ำ เป็นอาการของผิวหนังที่มีน้ำอยู่ใต้ชั้นผิวหนังน้อยจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือมีการสูญเสียน้ำในภาวะขาดน้ำทำให้ผิวมีลักษณะหมองคล้ำดูไม่สดใสหรืออาจมีผิวมันสลับกับผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้นหากปล่อยให้ผิวขาดความชุ่มชื้นไปเป็นเวลานานอาจพบกับรอยเหี่ยวย่นริ้วรอยบนผิวหนังได้ชัดโดยเฉพาะช่วงหน้าผากร่องแก้มรอบดวงตาบริเวณริมฝีปากซึ่งอาจเป็นสัญญาณแสดงอาการภาวะขาดน้ำของร่างกายได้เช่นกัน
 ดื่มน้ำถูกวิธีผิวพรรณดี
   ด้วยอายุที่มากขึ้นปริมาณน้ำในร่างกายจึงมีสัดส่วนลดลงการดื่มน้ำไม่เพียงพออาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและปัญหาผิวได้ง่ายยิ่งขึ้นบวกกับต้องเผชิญกับฝุ่นละอองPM2.5 ควันหรือมลภาวะรอบตัวก็ยิ่งทำให้ปัญหาผิวรุนแรงขึ้นแต่หลายคนที่ดื่มน้ำไม่เพียงพออาจจะยังไม่รู้ว่าควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตรซึ่งปริมาณที่ควรดื่มโดยทั่วไปแล้วเราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ1.5 ลิตรหรือเทียบได้กับน้ำปริมาณ8 – 10 แก้วต่อวัน (ขนาดแก้วประมาณ200 มิลลิลิตร) เพื่อที่จะได้รับน้ำเพียงพอต่อการทำงานของร่างกายและยังช่วยในการส่งเสริมการบำรุงผิวได้จากภายใน
เคล็ดลับการดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวัน
  • ดื่มน้ำ1 แก้วหลังตื่นนอน : ช่วยเติมความสดชื่นแก่ร่างกายก่อนเริ่มต้นวันใหม่และยังชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไประหว่างที่เราหลับนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่าการดื่มน้ำหลังตื่นนอนก่อนมื้ออาหารเช้าสามารถช่วยลดพลังงานที่จะได้รับจากอาหารเช้าลงได้ถึง13% เลยทีเดียวเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
  • ดื่มน้ำ1แก้วก่อนมื้ออาหาร (เช้ากลางวันเย็น) : การดื่มน้ำก่อนกินอาหารทุกมื้อช่วยในการลดพลังงานที่ได้รับจากมื้ออาหารและช่วยลดน้ำหนักลงได้ควรดื่มน้ำก่อนกินอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
  • ดื่มน้ำ1แก้วหลังมื้ออาหาร (เช้ากลางวันเย็น) : ช่วยในการย่อยและการดูดซึมสารอาหารและยังช่วยเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหารช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้
  • ดื่มน้ำ1แก้วก่อนนอน : ช่วยในการป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับอย่างไรก็ตามไม่ควรดื่มน้ำก่อนนอนเยอะเกินไปหรือดื่มน้ำใกล้เวลานอนมากเกินไป
   การดื่มน้ำตามช่วงเวลาการใช้ชีวิตประจำวันแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถดื่มน้ำได้ครบ8 แก้วต่อวันได้ง่ายขึ้นสำหรับใครที่ชอบพกพากระติกน้ำก็สามารถเลือกกระติกน้ำหรือขวดน้ำขนาดพกพา600 มิลลิลิตรโดยหมั่นเติมน้ำประมาณ3 ครั้งต่อวันแล้วแบ่งดื่มตามเวลาที่ได้แนะนำไปหรืออาจวางน้ำขวดใหญ่ขนาด1.5 ลิตรไว้ใกล้ตัวแล้วนำมาแบ่งดื่มตลอดทั้งวันก็ได้
   สุขภาพผิวที่ดีต้องเกิดจากการดูแลทั้งจากภายนอกและภายในร่างกายนอกจากการรักษาความสะอาดและการบำรุงผิวจากภายนอกแล้วสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์โดยเฉพาะพืชผักผลไม้เช่นกล้วยแอปเปิลส้มสตรอวเบอร์รีมะเขือเทศฯลฯซึ่งเป็นผลไม้ที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุซิลิกาแมกนีเซียมและโพแทสเซียมจัดเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิวพรรณและที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการดื่มน้ำให้เพียงพอ
Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.