Bangpakok Hospital

6 พฤติกรรมเช็คด่วน เสี่ยงทำให้ตับพัง

2 ก.ย. 2567

   
   ตับเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกาย หน้าที่หลักของตับคือการกรองเลือดที่มาจากทางเดินอาหารก่อนส่งผ่านไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ตับยังช่วยล้างพิษสารเคมีและดูดซึมยา  รวมถึงสร้างเกลือน้ำดี (bile salt) และน้ำดีเพื่อทำหน้าที่ละลายไขมัน  ช่วยสร้างโปรตีน วิตามิน   และสร้างสารที่ทำให้เลือดแข็งตัว
   ตับเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ หากเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อย   แต่หากปล่อยให้ตับต้องเผชิญกับพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพตับอยู่ทุกวัน อาจเกิดอันตรายต่อตับ จนกระทั่งส่งผลให้เกิดตับแข็ง เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับในที่สุด
อาหารและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตับ
  1. ยา อาหารเสริม และสมุนไพร
  • แม้ว่าฉลากจะระบุว่า “ธรรมชาติ” แต่สมุนไพรบางชนิดก็อาจส่งผลถึงการทำงานของตับได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงการรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่มากเกินความจำเป็น จนตับต้องทำงานหนักตลอดเวลา อาจส่งผลให้ตับอักเสบได้ ดังนั้นก่อนรับประทานยา อาหารเสริม หรือสมุนไพร จึงควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจว่าปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพตับ
  1. สารเคมีและสารพิษ
  • ยาฆ่าแมลง สารเคมี และสารพิษบางชนิดหากเข้าสู่ร่างกายอาจเป็นสาเหตุของตับอักเสบได้ เช่น สารกำจัดศัตรูพืชพาราควอต และสารหนู ที่อาจปนเปื้อนมาในผักผลไม้ รวมถึงน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงรับประทานผักผลไม้ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง รวมถึงการล้างทำความสะอาดที่ถูกวิธี และเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
  1. ไขมันส่วนเกิน
  • หากร่างกายมีไขมันส่วนเกินมากเกินไป อาจเกิดการสะสมที่ตับจนนำไปสู่โรค ไขมันพอกตับ ส่งผลให้ตับอักเสบเรื้อรัง จนนำไปสู่ภาวะตับแข็ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน  หรือเป็นเบาหวาน  ควรหันมาใส่ใจฟื้นฟูสุขภาพตับด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รวมถึงอาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น ขนมกรุบกรอบและขนมอบ ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนัก
  1. แอลกอฮอล์ และ น้ำอัดลม
  • เป็นที่ทราบกันว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพตับ แต่ “มากเกินไป”  คือแค่ไหน มาตรฐานการดื่มจึงกำหนดให้ ในผู้หญิง ปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ต่อวันคือ  ไวน์ 5 ออนซ์ (มากกว่าครึ่งแก้วเล็กน้อย ) เบียร์ 12 ออนซ์ หรือเหล้า 5 ออนซ์  ส่วนคุณผู้ชายสามารถดื่มได้เป็น 2 เท่าต่อวัน
  • สำหรับน้ำอัดลม  แม้การศึกษาไม่ได้พิสูจน์ว่าน้ำอัดลมเป็นสาเหตุสำคัญของตับอักเสบ แต่ก็พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะมีภาวะไขมันพอกตับมากขึ้น  ดังนั้นหากสามารถลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมลงได้ อาจทำให้สุขภาพตับดีขึ้น
  1. น้ำตาล
  • แน่นอนว่าน้ำตาลมากเกินไปย่อมไม่ดีสำหรับฟันและน้ำหนักตัว บางการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลอาจเป็นอันตรายต่อตับเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ การมีระดับน้ำตาลที่สูงทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับจนกลายเป็นโรคไขมันพอกตับ แม้ในผู้ที่ไม่อ้วนก็ตาม
  1. เลือดและการมีเพศสัมพันธ์
  • การใช้เข็มซ้ำ ไม่ว่าในกรณีใด อาจส่งผลให้เกิดการติดต่อของโรคไวรัสตับอักเสบบี และ ไวรัสตับอักเสบซี ทั้งนี้ยังรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี       และการใช้แปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ หรือมีดโกนร่วมกับผู้อื่น   หากมีการติดเชื้อแล้วอาจทำให้ป่วยเป็นตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง มะเร็งตับได้ในที่สุด
   การดูแล สุขภาพตับ นอกจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพตับที่กล่าวมาแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปี   เพื่อหาภาวะตับอักเสบ ไขมันพอกตับ  พังผืดในตับ  ก็มีความสำคัญ  หากเราสามารถตรวจพบในเบื้องต้นสามารถรักษาได้  ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นมะเร็งตับ  ทั้งนี้การฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยให้ห่างไกลจากโรคตับได้
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
โทร. 0-2109-1111 , 0-2109-2222
Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.